วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

Forex คืออะไร

สวัสดีนักลงทุนมือใหม่ทุกท่าน ก่อนที่เราจะทำการเทรดเรามาศึกษากันก่อนว่าการเทรดคืออะไรและความหมายของคำว่า Foex คืออะไร ข้อมูลเหล่านี้จะตอบโจทย์ให้คุณเอง

                    Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange Market หมายถึง ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อาจจะเรียกว่า  FX , หรือ currency market ก็ได้เช่นเดียวกัน การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ กำไรหรือขาดทุนจะเกิดจากส่วนต่างของราคาตอนที่ซื้อเทียบกับตอนที่ขาย ตามการขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินคู่เงินนั้นๆ ถ้าซื้อถูกและขายแพงก็ได้กำไร กลับกันถ้าซื้อแพงและมาขายถูกก็ขาดทุน
                     การซื้อขายสกุลเงินนั้นจะทำเป็นคู่ๆ ผ่านระบบออนไลน์ในตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ บนแพลทฟอร์มการซื้อขาย เช่น MT4 , cTrader , Webtrader  คุณสามารถเปิดพอร์ตลงทุนผ่านทางโบรกเกอร์ได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงไม่กี่ขั้นตอน.

ตลาด Forex เปิดทำการตอนไหน ?

                         Forex นั้นจึงถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการลงทุนระหว่างประเทศและการเทรดค่าเงินออนไลน์ เป็นตลาดแบบ OTC ที่ไม่ต้องมีสถานที่จริงสำหรับการซื้อและขาย เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง วันจันทร์-วันศุกร์ โดยจะเปิดตลาดในเช้าวันจันทร์เวลา 04.00 น. และปิดตลาดในเช้าวันเสาร์ เวลา 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งจะขยับเวลาเปิดช้าลงและปิดช้าลง 1 ชั่วโมงในช่วง Daylight Saving Time (DST) ในช่วงที่ตลาดปิด เสาร์และอาทิตย์ จะไม่สามารถสั่งซื้อขายได้
Forex-time-zone

ตลาด Forex ใหญ่แค่ไหน ?

                     ตลาด Forex มีโครงสร้างแบบกระจายจากศูนย์กลาง นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดนี้ได้จากทั่วโลกผ่านทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ในแต่ละวันมีปริมาณการซื้อขายโดยเฉลี่ยมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (5 Trillion) เรียกได้ว่าทุกตลาดหุ้นมีขนาดเล็กไปทันทีเมื่อนำมาเทียบกับตลาด Forex แห่งนี้
forex-market-size

โครงสร้างของตลาด Forex

                    ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศจะไม่เหมือนกับตลาดหุ้น ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศจะถูกแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ โดยมีตลาดระหว่างธนาคาร (Interbank Market) เป็นระดับด้านบนสุด รวมไปถึงธนาคารพาณิชย์และธนาคารกลางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เช่น HSBC , JP Morgan , Barclays Investment Bank , Citi Bank , Deutsche Bank , UBS AG , Goldman Sachs ซึ่งตลาดระหว่างธนาคารนี้จะเป็นแบบกระจายจากศูนย์กลางเหมือนกันกับตลาดซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ โดยจะถูกห้อมล้อมด้วยธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจขนาดใหญ่ ซึ่งการซื้อขายเกือบ 40% จะมาจากธนาคารระดับบนสุด (top-tier) ระดับต่อมาจะประกอบด้วยธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็ก  เฮดจ์ฟันด์ กองทุนต่างๆ  บริษัทพาณิชย์ ที่นำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ECNs (Electronic Communication Networks)  บริษัทโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายย่อยและนักเทรดรายย่อยทั่วไป
forex-market-structure

โครงสร้างของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (Forex Market Structure)

forex-market-hierarchy

ประวัติของตลาด Forex 

                  การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1880 เริ่มต้นใช้ระบบการเงินที่อ้างอิงจากทองคำ ซึ่งระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบการแลกเปลี่ยนแบบเดิม คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดของระบบนี้คือการมีอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ ระหว่างสกุลเงินของประเทศหนึ่งกับอีกประเทศหนึ่งไม่ว่าจะใช้รูปแบบวิธีการแลกเปลี่ยนแบบใดก็ตาม (ธนบัตรหรือเหรียญ) ระบบนี้ไม่เพียงแค่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินสองชนิดเท่านั้น ทั้งยังช่วยควบคุมค่าเงินและทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำด้วย
forex-market-history
                      ในศตวรรษที่ 20 ได้มีการเติบโตของธนาคารต่างชาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอังกฤษมีบริษัทโบรกเกอร์ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ 40 กว่าเฉพาะในลอนดอนในปี 1922 และการซื้อขายเงินตราต่างประเทศประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในโลกเป็นการซื้อขายเงินปอนด์ ในช่วงเวลานั้น นิวยอร์ค ปารีส และ เบอร์ลิน ได้เป็นศูนย์กลางการเทรดที่มีปริมาณสูงที่สุด ภายหลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Bretton Woods Accord ได้สร้างกฎเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการเงินและการจำกัดความแปรปรวนของค่าเงินให้ไม่เกิน 1% ของมูลค่าพาร์ของสกุลเงิน อย่างไรก็ตามหลังจากที่ข้อตกลงของ Bretton Woods ได้ล่มสลายลง ระบบที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนมาใช้ระบบแบบลอยตัว (free-floating) ในช่วงปลายของยุค 70’s การซื้อขายเงินตราต่างประเทศในระดับประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนมาเป็นตลาดที่มีค่าเงินแบบลอยตัว

ใครบ้างที่ซื้อขายในตลาด forex ?

ในตลาด Forex มีผู้ค้าที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ ทั้งการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคาร การซื้อขายเงินตราเพื่อชำระค่าสินค้าจากการนำเข้าหรือส่งออก การซื้อขายเพื่อประกันความเสี่ยง หรือการเก็งกำไร ผู้ค้าต่างๆ มีดังนี้
  • ธนาคารกลางของรัฐบาล
  • ธนาคารพาณิชย์
  • ธนาคารเพื่อการลงทุน
  • โบรกเกอร์
  • กองทุน ต่างๆ
  • บริษัทประกันภัย
  • องค์กรระหว่างประเทศ
  • บริษัทพาณิชย์ นำเข้า ส่งออก
  • นักเก็งกำไรรายใหญ่
  • บุคคลทั่วไป

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินมีอะไรบ้าง?

ตลาด Forex นั้นก็ไม่แตกต่างจากตลาดอื่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน เกิดจากอุปสงค์และอุปทานเหมือนกัน
  • ถ้ามีผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย ราคาจะสูงขึ้น
  • ถ้ามีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ ราคาจะต่ำลง
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน อาทิ เช่น
  • ผลการดำเนินการทางเศรษฐกิจของประเทศ
  • นโยบายของธนาคารกลาง
  • การปรับอัตราดอกเบี้ย
  • งบการค้าระหว่างประเทศ การนำเข้าและการส่งออก
  • ปัจจัยทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมือง
  • ความเชื่อมั่นของตลาด ความคาดหวังและข่าวลือ
  • การก่อการร้าย , ภัยพิบัติทางธรรมชาติ

การเทรด Forex ในปัจจุบันทำอย่างไร

                     การเทรดสกุลเงินผ่านระบบออนไลน์ในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายบุคคลและองค์กรจากทั่วโลก โดยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ทางการเงินแบบต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์ เช่น ตราสารหนี้ (ธนบัตรหรือพันธบัตร) , ตราสารทุน (หุ้น) หรือ ตราสารอนุพันธ์ (ออปชั่น ,ฟิวเจอร์ส , สว๊อป) ตั้งแต่ในช่วงท้ายของยุค 1990’s การเทรดสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อการลงทุนผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์และผ่านทางบริษัทโบรกเกอร์ที่มีแพลทฟอร์มเทรดออนไลน์ โดยนักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดในระดับโลกได้โดยตรงและเป็นแบบเรียลไทม์
                        การลงทุนในยุคแรกๆก่อนการเกิดขึ้นของอินเตอร์เน็ต การลงทุนสามารถทำได้โดยการวางคำสั่งทางโทรศัพท์ผ่านโบรกเกอร์หุ้นที่ได้รับอนุญาตให้สามารถทำการซื้อและขายหุ้น พันธบัตร หรือหลักทรัพย์อื่น ๆ ในนามของสถาบันหรือลูกค้ารายย่อย พนักงานของบริษัทโบรกเกอร์หรือโบรกเกอร์หุ้นจะทำการวางคำสั่งของนักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ ( London Stock Exchange , Tokyo Stock Exchange , New York Stock Exchange) หรือทำการเทรดโดยไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์ก็มีเหมือนกัน นั่นคือระบบสามารถเชื่อมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง ซึ่งโบรกเกอร์จะได้รับค่าตอบแทนจากการบริการนี้เป็นเงินค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียม คำสั่งของลูกค้าทั้งหมดจะถูกดำเนินการโดยโบรกเกอร์ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างนักลงทุนและตลาดการเงิน โดยคำสั่งเหล่านี้จะถูกส่งเข้าไปบนระบบของบริษัทโบรกเกอร์ และมีการเชื่อมต่อไปยังศูนย์กลางของตลาดหลักทรัพย์
                 ในปี 1994 เป็นปีที่การเทรดผ่านระบบออนไลน์ได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก เป็นปีที่บริษัทโบรกเกอร์แห่งแรกได้เริ่มต้นให้บริการในการลงทุนผ่านอินเตอร์เน็ต นักลงทุนสามารถวางคำสั่งโดยตรงผ่านทางออนไลน์และยังสามารถเทรดผ่านระบบเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาการซื้อขายเงินตราต่างประเทศได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ในด้านของการลงทุนออนไลน์ซึ่งผู้ที่มีอินเตอร์เน็ตสามารถใช้งานได้ โดยจะมีการดำเนินการซื้อขายบนแพลทฟอร์มเทรดออนไลน์ที่บริษัทโบรกเกอร์ได้จัดหามา การวางคำสั่งสามารถทำได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งและจะผ่านโบรกเกอร์ไปยังตลาดระหว่างธนาคารซึ่งเป็นตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในระดับบนสุด ทันทีที่ลูกค้าได้ปิดการเทรด บริษัทโบรกเกอร์จะทำการปิดโพซิชั่นบนตลาดระหว่างธนาคารภายในเวลาไม่กี่วินาทีและนำกำไรหรือการขาดทุนที่เกิดขึ้นไปใส่ไว้ในบัญชีเทรดของลูกค้า
Metatrader-4-Platform-Architecture-680
                     ในปัจจุบันนักลงทุนออนไลน์สามารถเข้าถึงตลาดโลกได้โดยตรงผ่านแพลทฟอร์มเทรดออนไลน์ นอกจากนี้ยังได้รับโควตราคาแบบเรียลไทม์บนตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) ตลอด 24 ชั่วโมง แพลทฟอร์มเทรด เช่น MetaTrader 4 ได้มาเป็นแพลทฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากทำให้นักลุงทุนสามารถซื้อและขายเงินตราหรือหลักทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ได้ พร้อมกับการใช้เครื่องมือที่มีอยู่บนแพลทฟอร์ม เช่น กราฟทางเทคนิค ราคาสตรีมมิ่งแบบเรียลไทม์ ระบบเทรดอัตโนมัติ (EAs) ข่าว และการทดสอบ back test ที่จะช่วยทำการเทรดให้เกิดกำไร

วิธีการเทรดฟอเร็กซ์ (How to trade Forex)

ตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศเป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์ เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายที่กระจัดกระจายไปตามภูมิภาคของโลกเป็นจำนวนมากและเปิดซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ปิดตลาดในวันเสาร์และอาทิตย์ การเทรดฟอเร็กซ์จะเกิดขึ้นตามคู่สกุลเงิน (มูลค่าของสกุลเงินหนึ่งต่ออีกสกุลเงินหนึ่ง) ซึ่งสกุลเงินตัวแรกเป็นสกุลเงินหลัก (Base Currency) และสกุลเงินตัวที่สอง (Quote Currency) เป็นสกุลเงินที่แสดงราคา ตัวอย่างเช่น ราคาของ EUR/USD 1.2345 เป็นราคาของเงิน Euro ต่อ US dollars หมายความว่า 1 Euro เท่ากับ 1.2345 US dollars คู่สกุลเงินที่มีการเทรดบ่อยที่สุด (เรียกว่า majors หรือ คู่ของสกุลเงินหลัก) ได้แก่ USD (US dollar) , EUR (euro) , GBP (British pound sterling) , CHF (Swiss franc) , AUD (Australian dollar) , JPY (Japanese yen) , CAD (Canadian dollar)
trading_tools
การเทรดสกุลเงินคุณสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 22.00 GMT ของวันอาทิตย์ จนถึง 22.00 GMT ของวันศุกร์ มีการเทรดสกุลเงินโดยศูนย์กลางทางด้านการเงินขนาดใหญ่จาก นิวยอร์ค ลอนดอน โตเกียว ซูริค แฟรงก์เฟิร์ต ปารีส ซิดนีย์ สิงคโปร์ และ ฮ่องกง โดยช่วงเวลาการเทรดหลัก ๆ ที่มีการซื้อขายจำนวนมากนั้นจะเกิดขึ้นจาก 3 ส่วนคือ: ยุโรป, เอเชีย และอเมริกาเหนือ
Credit :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น